วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2551

เรื่องย่อละคร Coffee Prince รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ


เรื่องย่อละคร Coffee Prince รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ
นักแสดงนำ : กอง ยู, ยุน อึนเฮ, ลี ซยอง กยอง, แช จุงอัน

ครอบครัวของ โคอึนชัน (Go Eun Chan) เคยมีฐานะดี แต่หลังจากที่พ่อของเธอตายไป แม่ของเธอยังคงชอบใช้จ่ายฟุ่มเพือยอยู่ ทำให้ทรัพย์สินร่อยหรอ จนกระทั่งเป็นหนี้ และเธอยังมีน้องสาวที่ต้องคอยดูแล โคอึนชัน ตัดสินใจทิ้งความรักสวยรักงาม เปลี่ยนภาพลักษณ์จากหญิงสาวแสนหวาน มาเป็นชายหนุ่มหน้าเด้ง เพื่อดูแลครอบครัวของเธอและหางานทำกันเป็นระวิง จากการที่เธอเคยมีความรู้ด้านเทควันโดมาก่อน ทำให้เธอมีลักษณะนิสัยห้าว ๆ และพูดอะไรตรงไปตรงมา ส่วนทางด้าน ชเวฮันคยูล ( Choi Han Kyul) แต่ ก็ดูเหมือนว่าเค้าจะรู้จักผู้หญิงดีไปซะทุกเรื่อง แถมยังหลงตัวเองว่าหน้าตาดีอีกด้วยสิ!หลังจากเกิดเหตุการณ์ตกกระไดพลอยโจนไปจนทำให้ ชเวฮันคยูล (Choi Han Kyul ) เข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้ชายจริงๆ แล้ว โคอึนชัน ก็เริ่มรับงานเป็นพนักงานในร้านกาแฟชื่อ Coffee Prince และเริ่มตกหลุมรักกับเจ้านายอารมณ์ร้ายอย่าง ชเวฮันคยูล เขาจ้างเธอเพราะอยากเอาเธอมาเป็นเกราะกำบัง ในขณะที่เขาเองกำลังจะโดนพ่อแม่บังคับให้แต่งงาน โดยเขาแสดงออกให้เห็นว่าเขานั้นเป็น "เกย์"ชเวฮันคยูล เริ่มมีความรู้สึกดีๆ กับ โคอึนชัน แต่ว่าเขาไม่เชื่อว่าความรู้สึกเหล่านี้คือความรัก ทางด้านของ โคอึนชัน ก็รู้สึกดีๆ กับ ชเวฮันคยูล เช่นเดียวกัน แต่เธอก็บอกเขาไม่ได้ว่าที่แท้จริงเธอเป็นผู้หญิงส่วนทางด้านของ ชเวฮันคยูล ก็ดันคิดว่าเธอเป็นผู้ชายมาตลอด ทำให้เขาเพ้อไปเองว่าเขาจะกลายเป็นพวกลักเพศไปแล้วหรือนี่ จนทำให้ต้องเจ็บปวดใจอยู่เป็นนิจ ความเป็นชายในตัวเขาเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดูน่ากลัวแต่มันก็ดูสนุกดี

ตอนนี้กำลังติดละครเรื่องนี้อย่างแรงคะ ^^ เพราะชอบความน่ารักของนางเอกที่มีความตั้งใจจริงในการทำงานอะไรก็ตาม เค้าไม่ย่อท้อ ขยันขันแข็ง มาพร้อมกับความสดใสน่ารัก ใครที่อยู่ด้วยก็มีแต่ความสบายใจ อิอิ.. และที่ขาดไม่ได้เลย พระเอกของเรา โดนใจค่ะ ที่โดนใจนี่หมายถึงนิสัยนะคะ เข้าตากรรมการอย่างแรง ชอบผู้ชายนิสัยแบบ นี้จริงๆ มั่นคงในรัก มีความมุ่งมั่นที่จะแสดงให้ทางบ้านเห็นว่าเค้าก็มีความตั้งใจจริงที่จะทำอะไรจริงจังเหมือนกัน และทำได้ดีซะด้วย หุหุ ^0^

และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ ชอบร้านกาแฟเค้ามากมายเลยคะ..เป็นอีกหนึ่งความฝัน..ฝันมาตั้งกะเด็กแล้วว่าอยากมีร้านกาแฟเล็กๆเป็นของตัวเอง ขายกาแฟ ขนมเด้ก และที่ขาดไม่ได้ต้องมีหนังสือเช่าด้วย อิอิ .. พูดแล้วตื่นเต้น ๆ .. อยากให้มีวันนั้นเร็วๆ..แต่อันดับแรก..เราต้องมีบ้านเป็นของตัวเองก่อน นะแอน..

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2551

ธรรมชาติ...ของความรัก

ไม่มีใครเกิดมาเพื่อใคร...

คนทุกคนเกิดมาเพื่อเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเอง
ทำความรู้จักกับตัวเอง และรักตัวเองให้ดีที่สุด

ถ้ามีใครสักคนเคยบอกรักเราและวัน หนึ่ง..เขาจากไป...
จงอย่าตั้งคำถามวกวนกับตัวเองว่าเป็นเพราะอะไร
แต่ให้คำ ตอบกับตัวเองอย่างง่ายๆว่า เพราะมันเป็นธรรมชาติ


ธรรมชาติที่สุดท้าย แล้วทุกคนจะเหลือแต่ตัวเอง
ไว้พูดคุยกับตัวเอง และโอบกอดตัวเองไว้
ในวัน ที่เคว้งคว้างว่างเปล่า และค้นพบว่า

เราอาจเป็นมนุษย์คนสุดท้ายบนผืนโลก...
วิธีเดียวที่จะทำให้เราไม่หนาวตายเพราะความเหงา
นั่นก็ คือ .. การกอบเก็บความทรงจำของวันเก่าก่อนมาสุมไฟ
นึกถึงรอยยิ้มที่บางคน เคย "มีให้"....
นึกถึงคำที่คนบางคนเคยบอก "รัก"...
และ .. นึกถึงอ้อมกอดที่บาง คนเคย "โอบรัด"...

ความอบอุ่นเหล่านั้นจะให้ให้เรารอดตาย...
แม้สุด ท้าย ...
ภาพทุกภาพจะมอดไหม้ไปกับกองไฟกองนั้นก็ตาม
....................................................................................................
"อย่าหยุดที่จะหยิบยื่นความรัก ถึงแม้คุณจะไม่ได้รับมันตอบ ....
งยิ้มสู้และมีความอดทน..."

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2551

What Should I do??

  1. เวลาที่เรารู้สึกรักใครสักคน ความรู้สึกมันเป็นยังไง
  2. เราต้องทำตัวยังไง ถ้าเรารักใครสักคน
  3. ต้องแสดงออกยังไง ให้คนที่เรารักรู้ว่าเรารู้สึกยังไงกับเค้า แบบไม่น่าเกลียด
  4. ทำไมเวลาที่เรารู้สึกดีๆกับใครสักคนเราไม่กล้าทำอะไรหลายๆอย่าง เช่น แสดงออกให้เค้ารู้
  5. ทำไมเวลาที่เรามีความรัก ถึงได้สับสนจัง

วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2551

ทบทวน..หัวใจ


ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลามาเขียนเรื่องราวต่างๆ เลยทำให้เรื่องบางเรื่องที่อยากเล่า เลือนลางในความทรงจำไปแล้ว เพราะตัวเราเองจดจำอะไรได้แต่ไม่ค่อยจะนานเท่าไหร่.. แปลกนะเรื่องสนุก เรื่องสุข เราทำไมจำได้ไม่นาน แต่ทำไมเรื่องเศร้า ผิดหวัง เสียใจ ทำไม ต้องกลับเข้ามาในสมองทุกๆเช้า หรือทุกๆครั้งที่เรารู้สึกว่ากำลังอ่อนแอ..ใจคนเรานี่ก็แปลก..ทั้งๆที่รู้ว่าปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น ก็พาลจะทำให้ใจเราห่อเหี่ยว แต่ก็ยังดื้อที่จะทำ ยิ่งบังคับก็ยิ่งอยากทำ


แต่ก็เหมือนฟ้าประทานพร มาให้ชีวิตเรา วันนึงเดินเข้าร้านหนังสือ เลยซื้อติดมือมา 3 เล่ม หนึ่งในนั้น คือ "เข็มทิศชีวิต" ซึ่งเป็นหนังสือที่คุณมณฑานี แนะนำไว้ในหนังสือ "ผู้หญิงฉลาดรัก" เอ หรือว่า "ผู้หญิงอัศจรรย์" ก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ อ่านแล้วโดน อย่างจัง ได้อะไรหลายอย่างมากมาย มีบางคนเคยพูดกับเราไว้ว่า เราหมกมุ่น กับประสบการณ์ชีวิตคนอื่นเกินไป ทำให้พอเวลามีประสบการณ์ใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตเราบ้าง เราไม่กล้าเรียนรู้ ในตอนแรก เราก็เชื่อและเข้าใจเช่นนั้น


แต่พอมาถึงวันนี้ เหมือนมีแสงสว่างเกิดขึ้นในใจเรา


ที่จริงแล้วเราไม่ใช่ ไม่กล้าเผชิญหน้า แต่ในเมื่อเรารู้แล้วว่าปลายทางจะจบลงตรงไหน ทำไปแล้วไม่ได้พัฒนาชีวิตตัวเองเลย มีแต่เสียพลังงานชีวิต พลังจิตใจปล่าวๆ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เรายังจะทำอยู่อีกหรือ ลองถามตัวเองดู


และอีกอย่าง เราอ่านหนังสือเพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตของคนอื่นก็จริง แต่เราไม่ได้ยึดติดนี่นาว่าจะต้องทำตามเค้าไปซะทุกอย่าง หรือทุกเรื่อง แต่เราเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตของคนอื่น เพื่อนำมาพัฒนาชีวิตตัวเองต่างหาก คน คน นึง คงไม่สามารถมีประสบการณ์ที่หลากหลาย หรือ ถ้าจะมี การที่คนเราได้เรียนรู้มุมมองของคนอื่นผ่านการอ่านหนังสือก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ถ้าเรารู้จักที่จะนำมาปรับใช้กับชีวิตเรา นั้นแหละ ยิ่งทำให้เราสามารถมองปัญหาได้อย่างทะลุปุโปร่ง


เพราะ "หนังสือ คือ ปัญญา" (ถ้าใช้ให้เป็นนะคะ ^^)


สำหรับเรา .. หลังจากที่ได้อ่าน เข็มทิศชีวิต แล้ว นำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน ช่วยได้เยอะเลยทีเดียว รู้สึกเลยว่า การทบทวน หัวใจ ตัวเองนั้นมีประโยชน์อย่างมาก กับตัวเราเอง ทุกครั้งที่เรารู้สึกโกรธ หรือแม้กระทั่งรู้สึกดี มึความสุข และอื่นๆ พอเราหันกลับมามองที่หัวใจเราเอง แทนที่จะพุ่งเป้าไปที่คนอื่นที่มากระทำกับเราทำให้สามารถเรียนรู้ที่จะควบคุมความรู้สึกของตัวเอง เรียนรู้ตัวเอง ว่าเพราะอะไร ทำไม ในตอนนั้น เราจึงได้รู้สึก แบบ นั้น หลังจากที่เคย จิตใจ รุ่มร้อน ตอนนี้เราสามารถควบคุมตัวเองได้ทันเวลา ก่อนที่ความรู้สึกนั้นจะพัฒนาไปเป็นความโกรธ หรือ ความเกลียด คงไม่มีใครปฎิเสธได้หรอกว่า ทุกคนย่อมมีความรู้สึก ทั้งโกรธ เศร้า เหงา ดีใจ เสียใจ มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทบทวน หัวใจ ตัวเอง และควบคุม ความรู้สึกนั้นไม่ให้ลุกลามใหญ่โต จนบางครั้งบางทีอาจแผดเผาคนอื่น หรือ แม้กระทั้งตัวเองได้


"สุข หรือ ทุกข์ เริ่มต้นที่ใจเรา ในยามสุข จงสนุกกับมันให้เต็มที่ แต่อย่าไปยึดติดกับความสุขนั้นมากจนเกินไป หรือ แม้กระทั่งในยามทุกข์ จงเรียนรู้ที่จะหาความสุขจากความทุกข์นั้น แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็จงหาวิธีที่จะไม่ได้ความทุกข์ก่อตัวจนเติบโตแน่นคับอก หาทางออกจากทุกข์ไม่เจอ หรือทำให้ความทุกข์นั้นเล็กน้อย จนค่อยๆจางหายไปในที่สุด เหมือน หมอก ควัน ในอากาศ ที่เกิดขึ้นแล้วก็มีวันจางหายไป เช่นกัน"


ความสุข และ ความทุกข์ ทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ทำให้เราเกิดปัญญามากขึ้น แต่ถ้าเราไม่รู้จักที่จะควบคุมหัวใจตัวเองแล้ว ก็คงเหมือนกับคนเดินหลงทางในเขาวงกต หาทางออกไม่เจอ

"คุณเลือกที่จะมีเข็มทิศในยามที่ต้องเดินในเขาวงกต หรือ เลือกที่จะเดินแบบไร้ทิศทาง จนสุดท้ายหาทางออกไม่เจอ และจมปลักอยู่ในเขาวงกต นั้นหละ"